วันนี้ (10 ต.ค.) เมเปิ้ลครอฟต์ บริษัทที่ปรึกษาของอังกฤษเปิดเผยรายงานการวิเคราะห์ฉบับหนึ่งระบุว่า  ประเทศในทวีปแอฟริกา 3 ใน 4  และอีกหลายชาติในกลุ่มอาหรับ มีความเสี่ยงสูงในการเผชิญกับวิกฤตอาหาร  โดยจากการสำรวจ 197 ประเทศทั่วโลกพบว่า  59 ประเทศมีความเสี่ยงมากที่สุดเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางอาหาร  ซึ่งในจำนวน 59 ประเทศดังกล่าว เป็นชาติในทวีปแอฟริกาถึง 39 ประเทศ   นอกจากนี้ อีก 11 ประเทศมีความเสี่ยงมากที่สุด  โดย 9 ชาติอยู่ในแอฟริกา ประกอบด้วยโซมาเลีย  สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก   บุรุนดี  ชาด  เอธิโอเปีย  เอริเทรีย  ซูดานใต้   โคโมรอส และเซียราลีโอน  ขณะที่ เฮติและอัฟกานิสถาน ก็เป็น 2 ประเทศที่มีความเสี่ยงด้านวิกฤตอาหาร

รายงานระบุว่า  แม้วิกฤตอาหารยังไม่ปรากฏขึ้นมา แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความวุ่นวายที่เกี่ยวพันกับอาหารในหลายภูมิภาค  รวมทั้งในแถบทะเลทรายซาฮาราของแอฟริกาและชาติอาหรับ    ส่วน 48 ประเทศอื่นที่อยู่ในข่ายเสี่ยงสูง รวมทั้งเยเมน  ซีเรีย  ปากีสถาน  ปาปัวนิวกินี เกาหลีเหนือ  อิรัก และลิเบีย  อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าว ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ดัชนีวัดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของอาหาร  ต้องการให้รัฐบาล  เอ็นจีโอ และธุรกิจต่างๆ ไปจนถึงประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด  ตระหนักถึงความหิวโหยและความไม่สงบทางสังคม  เนื่องจากการขาดแคลนอาหารหรือราคาอาหารที่แพงขึ้น