สรุปประกาศของคสช. ทุกฉบับ
26 พ.ค. 57
คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 18 เรียก ผอ.กองสลาก-วิม-แทนคุณ-พล.อ.ไตรศักดิ์ รายงานตัว ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ – ฉบับที่ 19 สั่ง บุคคลรายงานตัวเพิ่ม 2 คน รวมอดีตสามี “เยาวเรศ ชินวัตร”
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่ง ชาติ หรือ คสช. ที่ 18/2557 เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม เพื่อให้การรักษาความสงบ และการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เวลา 13.00-14.00 น. ตามรายชื่อดังนี้
1.พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี นายทหารตท.10
2.นายวิม รุ่งวัฒนจินดา
3.นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ส.ส.ประชาธิปัตย์
4.พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2557
คสช.สั่ง บุคคลรายงานตัวเพิ่ม 2 คน รวมอดีตสามี “เยาวเรศ ชินวัตร”
คำ สั่ง คสช. ฉบับที่ 19 เรียกบุคคลเข้ารายงานตัวเพิ่มเติม 2 คน คือ นางปราณี เอ็งอายุรกูล และ นายวีระชัย วงศ์นภาจันทร์ อดีตสามี นางเยาวเรศ ชินวัตร
คำ สั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ 19/2557 เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม เพื่อให้การรักษาความสงบ และการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2557เวลา 13.00-14.00 น. ตามรายชื่อดังนี้
1.นางปราณี เอ็งอายุรกูล
2.นายวีระชัย วงศ์นภาจันทร์ อดีตสามี นางเยาวเรศ ชินวัตร
สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2557
25 พ.ค. 57
คสช. ประกาศ ฉบับ 37 เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิพากษาคดีของศาลทหาร
ให้ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณา และพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น เพื่อให้การรักษาความสงบ และการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงประกาศให้บรรดาคดีความผิดตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตราชอาณาจักร และในระหว่างที่ประกาศนี้ใช้บังคับอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร
1.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
(1) ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่มาตรา 107 – 112
(2) ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่มาตรา 113 -118 ยกเว้นความผิด ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช 2551 หรือ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548
2.ความผิดตามประกาศ หรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
คสช. ประกาศฉบับ 36 เรื่อง เชิญผู้ประกอบการค้า-ขนส่งน้ำมัน ประชุม
เชิญอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน อธิบดีกรมการขนส่ง ผู้ค้าน้ำมัน ตาม ม.7 พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2543 และผู้ขนส่งน้ำมัน ตาม ม.12 พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2543 ร่วมประชุมในวันที่ 25 พฤษภาคม 57 เวลา 14.00 ณ สโมสรกองทัพบก
คสช.ประกาศฉบับ 35 หากมีการอนุมัติงบแผนงานหรือโครงการ ต้องเสนอให้หัวหน้าฝ่ายตามฉบับ22 เห็นชอบก่อน
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประกาศ ฉบับที่ 35/2557 เรื่องอำนาจในการอนุมัติงบประมาณของปลัดกระทรวง หลังจากที่มีการกำหนดให้ปลัดกระทรวงรักษาราชการแทนรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ตามประกาศของ คสช.ฉบับที่ 16/2557 โดยหากมีการอนุมัติแผนงานหรือโครงการใดๆที่อยู่ในอำนาจอนุมัตของรัฐมนตรีจะ ต้องเสนอเรื่องให้หัวหน้าฝ่ายที่มีหน้าที่อำนวยการ ควบคุม ตามประกาศของ คสช. ฉบับที่ 22/2557 พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน ทั้งนี้แม้การดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการ ที่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แม้จะเคยได้รับการอนุมัติหลักการไว้แล้ว ในขั้นการอนุมัติงบประมาณจะต้องเสนอให้หัวหน้าฝ่ายข้างต้นพิจารณาให้ความ เห็นชอบก่อน
24 พ.ค. 57
เวลา18.50น. คสช.มีคำสั่งย้าย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร,นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ,พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยรับเงินเดือนจากสังกัดเดิมไปก่อน พร้อมทั้งมีคำสั่งยุบวุฒิสภาให้สิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
เวลา 17.53 น. คสช.ประกาศ ฉ.28 เรื่องการกราบบังคมทูลถวายรายงานสถานการณ์ 20,22พค. มีหนังสือตอบกลับจากสำนักราชเลขาธิการว่าความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว
|