กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม เอซุส ประกาศรุกธุรกิจพีซีเดสก์ท็อปพีซีแบบเป็นทางการ จับกลุ่มเกมมิ่ง กลุ่มเพอร์ฟอร์มแมนซ์ และกลุ่มไลฟ์สไตล์ หวังส่วนแบ่งการตลาดเดสก์ท็อปพีซีรวมที่ประมาณ 3 ภายในปี 55 เผยตลาดไอทีช่วงไตรมาส 4 ยังสดใสราคาเฉลี่ยต่อเครื่องสูงความต้องการในตลาดไม่ตก...

นายมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอซุส กล่าวว่า จากภาพรวมตลาดไอทีในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2555 นี้ คาดว่ามีแนวโน้มสดใสต่อเนื่อง อันเป็นสาเหตุมาจากการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาดโดยแบรนด์ต่างๆ เช่นระบบปฏิบัติการ Windows 8 โดยไมโครซอฟท์ โปรเซสเซอร์ ตระกูล Ivy Bridge ของอินเทล และอื่นๆ อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ผู้บริโภคไม่รอที่จะหาซื้อสินค้าไอทีในช่วงสิ้นปีนี้ และส่งผลให้ตลาดเกิดความคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นโอกาสที่ทางเอซุสเห็นว่า เหมาะที่จะเปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์ของเอซุสเอง สำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทแม่ที่ไต้หวัน ได้นำร่องธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีในตลาดประเทศญี่ปุ่น และในอเมริกาเหนือเมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา และปรากฏว่าได้การตอบรับที่ดี เนื่องจากความแข็งแกร่งในพื้นฐานตลาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อาทิ มาเธอร์บอร์ด วีจีเอการ์ด อ็อพติคอลดิสก์ไดร้ฟว์ (ODD) ไปจนถึงเคสที่มีความคงทนแข็งแรง

ผจก.ประจำประเทศไทย กลุ่มโอเพ่นแพลตฟอร์ม เอซุส กล่าวต่อว่า ในปี 2555 เป็นจังหวะและโอกาสที่ดีของเอซุสที่ได้มีโอกาสทำตลาดพีซีสำหรับลูกค้าองค์กรต่างๆ มาตั้งแต่ช่วงต้นปี ทั้งโครงการประมูลจัดซื้อต่างๆ ของหน่วยงานราชการ โดยได้รับเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการจัดหาอุปกรณ์พีซีตั้งโต๊ะให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายใต้การดูแลของสพฐ. โดยปีนี้หน่วยงานต่างๆ ได้หันมาเปลี่ยนกฎข้อบังคับใหม่ กำหนดให้เดสก์ท็อปพีซีที่จะนำมาใช้งานเป็นทรัพย์สินของทางราชการนั้น ต้องมีส่วนประกอบภายในที่มาจากแบรนด์เดียวกันทั้งหมด ทำให้เอซุสได้มีโอกาสเข้าร่วมมากขึ้น และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์เอซุสในเบื้องต้นอยู่ที่ 1% ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และสำหรับในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ตลาดคอนซูมเมอร์มีการอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เราจึงตัดสินใจส่งไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีลงสู่ตลาดคอนซูมเมอร์

นายมนต์ธีร์ กล่าวถึงเป้าหมายในปี 2555 ว่า เอซุสได้ตั้งเป้าหมายในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมของทั้งธุรกิจพีซีคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 3% ภายในสิ้นปี ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายรวมของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์มบรรลุถึง 1,600 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในสิ้นปี 2555 นี้ซึ่งสัดส่วนของธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีของเอซุสระหว่างตลาดคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์จาก100 % จะอยู่ที่ประมาณ 80 ต่อ 20 นอกจากนี้ทางเอซุสหวังว่าในปี 2555 นี้ จะยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดและวีจี เอการ์ด อย่างต่อเนื่องในตลาดประเทศไทย พร้อมเพิ่มการเติบโตในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์กโซลูชั่นที่กำลังมา แรงและมีอัตราเติบโตถึง 150% ในไตรมาสสุดท้ายนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซี อย่างที่ได้เรียนไปข้างต้น

ผจก.ประจำประเทศไทย กลุ่มโอเพ่นแพลตฟอร์ม เอซุส กล่าวถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ว่า สำหรับไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ประกอบด้วยเดสก์ท็อปพีซีที่ครอบคลุม 3 กลุ่มไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเป็นพีซีที่ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 7 และพร้อมรับการอัพเกรดสู่ Microsoft Windows 8 ประกอบด้วย

กลุ่มเกมมิ่งพีซี (Gaming PCs) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคอเกมที่ต้องการสมรรถนะความแรงของเดสก์ท็อปและกราฟฟิกคุณภาพดี โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มเกมมิ่งพีซีนี้แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ เกมมิ่งพีซีสำหรับการเล่นเกมทั่วไปตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นที่มีสเปกสูง และเอ็กซ์ตรีมเกมมิ่งพีซี ซึ่งตอบโจทย์ของเกมเมอร์ระดับฮาร์ดคอร์ ที่ใช้งานเครื่องแบบสมบุกสมบัน การโอเวอร์คล็อกที่แรงกว่า หรือการเล่นเกมที่สูบทรัพยากรเครื่องอย่างหนักหน่วงเป็นเวลานานติดต่อกัน

กลุ่มเพอร์ฟอร์มแมนซ์พีซี (Performance PCs) เป็นกลุ่มพีซีที่สามารถรองรับความต้องการเฉพาะทางซึ่งต้องอาศัยประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องสูง อาทิ การออกแบบกราฟฟิก การใช้งานด้านสถาปัตยกรรม การชมภาพยนตร์ และการใช้งานด้านความบันเทิงระดับคุณภาพต่างๆ

และกลุ่มไลฟ์สไตล์พีซี (Lifestyle PCs) เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีที่รองรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การทำงานในออฟฟิศ การศึกษา ความบันเทิงด้านต่างๆ ฯลฯ โดยเน้นความคุ้มค่าและการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า เราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

นายมนต์ธีร์ กล่าวอีกว่า เอซุส ได้นำเสนอนวัตกรรมเดสก์ท็อปพีซีประสิทธิภาพสูงที่เป็นรุ่นไฮเอนด์แก่ตลาดในประเทศไทย นำโดย “ROG TYTAN CG8890” เดสก์ท็อปพีซีรุ่นเรือธงสำหรับการเล่นเกมแบบแรงเกินพิกัดในแบบเอ็กซ์ตรีมที่เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกต่างเฝ้ารอ โดยเกมมิ่งเดสก์ท็อปรุ่นนี้มาพร้อมจุดเด่นของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซีพียู Intel Core i7-3960X Processor ใหม่ล่าสุด และโหมดพิเศษ Turbo Gear ที่ใช้ในการโอเวอร์คล็อกได้แบบพร้อมกันทันทีถึง 6 Core พร้อมกราฟฟิกการ์ดสมรรถนะแรงจัดจาก NVIDIA รุ่น GeForce GTX 690 ที่รองรับการใช้งานพร้อมกันถึง 4 หน้าจอ พ่วงด้วยสุดยอดคุณภาพเสียงจากASUS Xonar DX ซาวด์การ์ดที่ให้เสียงคมชัดมากขึ้นกว่าปกติ 35 เท่าเมื่อเทียบกับการ์ดเสียงออนบอร์ดบนพีซีทั่วไป และนอกจากนี้ดีไซน์ของเคสยังมีความโดดเด่นให้มีช่องระบายความร้อนกว่า 10 ช่องทาง โดยเมื่อเปิดเครื่อง ปีกด้านข้างของเคสจะสยายออกและมองเห็นพัดลมระบายอากาศเรืองแสงสีแดง พร้อมไฟแสดงสถานะของโหมดการใช้งานเป็นแสงสีฟ้าและสีแดง

รุ่น ROG CG8580 TYTAN Gaming Desktop PC ซึ่งเป็นไฮไลต์ของกลุ่มเกมมิ่งพีซีสำหรับเกมเมอร์สุดระห่ำที่ต้องการอรรถรสในการเล่นเกมให้มันส์สะใจยิ่งขึ้นกับการอัพเกรด CPU ใหม่ สำหรับพีซีที่เป็นตัวชูโรงในกลุ่มเพอร์ฟอร์มแมนซ์ ได้แก่ ASUS CG8270 Performance Desktop PC ที่สามารถตอบทุกโจทย์การทำงานภายในบ้านและงานเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือแม้แต่ทำงานด้านกราฟฟิกดีไซน์ ก้อไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และไฮไลต์สุดท้ายในกลุ่มไลฟ์สไตล์พีซี ได้แก่ ASUS CM1740 Lifestyle Desktop PC ที่มีเทคโนโลยี APU ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านมัลติมีเดียได้อย่างครบครัน มอบอรรถรสและความสนุกแก่การใช้งานได้ภายในราคาที่คุ้มค่า

ผจก.ประจำประเทศไทย กลุ่มโอเพ่นแพลตฟอร์ม เอซุส กล่าวด้วยว่า ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเดสก์ท็อปพีซี ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราได้เพิ่มงบการตลาดกว่า 2 เท่า โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับใช้ในการสื่อสารทางการตลาด โดยเราเตรียมรุกตลาดอย่างเต็มตัวผ่านช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการทำการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ (Below-the-line) นอกจากนี้ยังมีการเปิดโอกาสให้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีของเอซุสที่หน้าร้าน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริง นอกจากนี้ให้บริการรับประกันสินค้าแบบออนไซต์เซอร์วิส หรือรับซ่อมส่วนประกอบทุกชิ้นถึงบ้านนานถึง 3 ปีเป็นเจ้าแรก และเป็นการซ่อมให้ในทุกกรณีหากเป็นส่วนประกอบแรกเริ่มที่มาพร้อมกับเครื่องพีซีที่ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายของเอซุสอีกด้วย.