|
|
|
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
2
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
124
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
2,757,582
|
เปิดเว็บ
|
11/03/2554
|
ปรับปรุงเว็บ
|
02/03/2567
|
|
|
ข่าวพยากรณ์อากาศ
|
|
ป้องน้ำท่วมสุดอืดจ่ายแค่พันล้าน ถลุงเงินเยียวยาเกลี้ยงกว่า9หมื่นล้าน
[17 กันยายน 2555 10:40 น.]จำนวนผู้เข้าชม 4687 คน |
|
หน่วยราชการพร้อมใจถลุงงบฯกลางเยียวยากว่าเก้าหมื่นล้านบาท แต่ใช้งบฯลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ-ประตูระบายน้ำที่พังจากน้ำท่วมกลับอืดเป็นเรือเกลือ เบิกจ่ายไปแค่ 1,055 ล้านบาท ประจานการทำงานไม่คืบหน้า ไม่ทันรับฤดูน้ำหลากในปีนี้ พบชาวนาแห่ทำประกันภัยนาข้าว ส่วนประกันภัยทรัพย์สินบ้านที่อยู่อาศัย คาดยอดพุ่ง 3 ล้านล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงการใช้งบประมาณเพื่อรับมือน้ำท่วม จากข้อมูลล่าสุดของกรมบัญชีกลางระบุว่า การเบิกจ่ายงบฯกลางในการเยียวยา ฟื้นฟูและป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ (120,000 ล้านบาท) ณ วันที่ 7 กันยายน 2555 มีการเบิกจ่ายรวมแล้วกว่า 91,000 ล้านบาท หรือ 76.05% จากวงเงินที่จัดสรรทั้งหมด 119,000 ล้านบาท ขณะที่ก่อหนี้ผูกพันแล้วกว่า 18,000 ล้านบาท
โดยหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรสูงสุด ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กว่า 23,000 ล้านบาท ธนาคารออมสินกว่า 11,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานเบิกจ่ายครบ 100% แล้ว
ขณะที่กระทรวงที่ได้รับจัดสรรงบประมาณมากที่สุดคือ กระทรวงมหาดไทยวงเงินกว่า 19,000 ล้านบาท เบิกจ่ายไปแล้ว 14,000 ล้านบาท หรือ 72.79% รองลงมาได้แก่ กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรกว่า 16,600 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 70.71% ส่วนใหญ่เป็นงบฯที่จัดสรรให้กรมทางหลวงถึง 10,000 ล้านบาท ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับจัดสรรกว่า 12,700 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 72.59% ส่วนใหญ่เป็นงบฯที่จัดสรรให้กับกรมชลประทานกว่า 11,000 ล้านบาท
ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบป้องกันน้ำ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 วงเงิน 35,000 ล้านบาทนั้น ได้รับรายงานจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ว่า ล่าสุดมีการเบิกเงินกู้แล้วเพียง 1,055 ล้านบาท จากที่มีการอนุมัติจัดสรรก้อนแรกกว่า 20,000 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายของ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วยกรมทางหลวง, กรมทางหลวงชนบท, กรมโยธาธิการ และกรมชลประทาน ส่วนใหญ่เป็นการเบิกไปใช้สำหรับการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ ซ่อมแซมประตูระบายน้ำเป็นหลัก
แต่งบฯลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อป้องกันน้ำท่วมในระยะเร่งด่วนเพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในปีนี้ กลับมีการเบิกจ่ายไปน้อยมาก กล่าวคือ เบิกจ่ายไปเพียง 1,055 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินการของหน่วยงานรัฐในการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ เป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้เกิดน้ำล้นลำน้ำเจ้าพระยาเข้าไปท่วมในหลายพื้นที่ของภาคกลางอยู่ในขณะนี้
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ตรวจสอบความคืบหน้าในส่วนของกองทุนส่งเสริมการประกันภัย การประกันภัยพืชผลทางการเกษตร ปรากฏในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ครั้งที่ 8 ที่มีนายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธาน เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้ชี้ว่าโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดประสบอุทกภัยในปีที่ผ่านมาเริ่มเปิดดำเนินการ ขณะที่กรมธรรม์ส่วนใหญ่จะทยอยครบกำหนดต่ออายุในเดือนตุลาคม 2555 ขณะนี้เข้าฤดูฝน ดังนั้นการทำประกันภัยพิบัติจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
พร้อมกันนี้ได้รายงานผลการรับประกันภัยล่าสุดพบว่า กลุ่มผู้เอาประกันบ้านอยู่อาศัย SMEs และอุตสาหกรรมได้ออกกรมธรรม์ไปแล้ว 47,015 ฉบับ ทุนภัยพิบัติรวม 6,341.91 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรวม 45.19 ล้านบาท
โดยมีประมาณการประกันภัยทรัพย์สินช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2555 คาดว่า จะมีการออกกรมธรรม์สูงถึง 364,372 ฉบับ ทุนประกันภัย 3,655,607 ล้านบาท ประมาณการทุนประกันภัย 475,550 ล้านบาท
ส่วนในระยะต่อไป ทางคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจะเดินทางไปเจรจากับบริษัทประกันภัยต่อ เพื่อเจรจาต่อรองเงื่อนไขความคุ้มครอง รวมทั้งเบี้ยประกันได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยเป็นการจัดคณะเดินทางเยือนบริษัทประกันภัยต่อในต่างประเทศโดยตรง เช่น อังกฤษและญี่ปุ่น เพื่อแสดงถึงความคืบหน้าแผนบริหารจัดการน้ำ
ตื่นซื้อประกันน |
|
|