เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายยูอิชิโร ฮะตะ รมว.ที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคม และการท่องเที่ยว ของประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างกันในหลายสาขา ทั้ง การลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำ และระบบรถไฟความเร็วสูง โดยเฉพาะในโครงการรถไฟความเร็วสูงของไทยนั้น ญี่ปุ่นได้แสดงความพร้อมช่วยเหลือไทย โดยในวันที่ 9 ต.ค.นี้ ทางรมว.ที่ดินฯ และรมว.คมนาคมของไทย จะลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือระบบราง เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ไทยให้ความสำคัญมาก และขณะนี้ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดการประมูลภายในปี 56 โดยไทยจะเน้นการสนับสนุน เรื่องการพัฒนาบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยให้ความสนใจเร่งด่วน และการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาเมืองที่รถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่าน รวมถึง การผสมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่น สินค้าโอทอป และอาหารไทยในระบบรถไฟความเร็วสูงที่มีต้นแบบจากญี่ปุ่นด้วย
ส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำนั้น ญี่ปุ่นได้แสดงความสนใจและความพร้อมของภาคเอกชนญี่ปุ่นต่อการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำของไทย โดยรมว.ที่ดินฯ ได้ขอรับการสนับสนุนแก่บริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่นที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญกับกระบวนการคัดเลือกที่โปร่งใสและเป็นธรรม โดยเน้นเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พร้อมกับขอให้ญี่ปุ่นนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับการประมูลโดยใช้จุดแข็งที่มี เช่น การวางผังและการบริหารจัดการเมือง ประสบการณ์การจัดการอุทกภัย และการบำรุงรักษา ทั้งนี้ทางญี่ปุ่น ได้แจ้งว่า พร้อมให้การสนับสนุน และยืนยันประสบการณ์ของญี่ปุ่นด้านเทคโนยีในการป้องกันภัยพิบัติในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ในปี 55 นี้ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติการณ์ โดยในญี่ปุ่นได้ออกมาตรการที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่ไทย คือ การออกวีซ่าท่องเที่ยวแบบมัลติเพิล ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไทยสามารถเดินทางเข้าออกญี่ปุ่นได้หลายครั้งภายใน 3 ปี ขณะที่ฝ่ายไทยได้ยืนยันความพร้อมและศักยภาพของไทยที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น รวมถึง ส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เช่น การท่องเที่ยวแบบพักผ่อนระยะยาว (ลองสเตย์) สำหรับผู้สูงอายุด้วย
|