บอร์ดสลากฯ ยังไม่อนุมัติหวยบนดินออนไลน์ หลังความพร้อมของจุดจำหน่ายสลากฯ จาก 6,000 จุด เพิ่งสำรวจได้เพียง 500 จุดเท่านั้น ด้าน ผอ.สลากฯ ลั่นปีหน้าเห็นหวยบนดินออนไลน์แน่นอน

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) เปิดเผยหลังการประชุมบอร์ดว่า บอร์ดยังไม่อนุมัติให้ฝ่ายบริหารของสำนักงานสลากฯ ดำเนินการจำหน่ายสลากแบบเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัวด้วยเครื่องจำหน่ายสลากอันโตมัติหรือหวยบนดินออนไลน์ เนื่องจากมีรายละเอียดของขั้นตอน ที่ต้องปฏิบัติให้เสร็จสิ้นถึง 23 เรื่อง เช่น จุดจำหน่ายหรือสถานที่ตั้งของเครื่องออนไลน์ ความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์ รวมถึงโปรแกมของเกมการเล่น และวิธีการจ่ายเงินรางวัล เป็นต้น

“หวยบนดินออนไลน์ น่าเปิดตัวได้ต้นปีหน้า ซึ่งได้สั่งการให้ฝ่ายบริหารของสำนักงานสลากฯ ไปเร่งดำเนินการให้เรื่องที่ปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ทั้ง 23 เรื่องเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะจุดจำหน่ายและอุปกรณ์การเล่นที่ระบุว่า มีความพร้อม 6,000 จุดทั่วประเทศ ล่าสุดได้รับรายงานว่า บริษัทล็อกซเรย์ จีเทคโนโลยี ได้สำรวจความพร้อมของจุดจำหน่ายไปเพียง 500 แห่งเท่านั้น หากไม่มีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการบอร์ดก็คงอนุมัติให้ไปดำเนินการไม่ ได้”

นอกจากนี้ กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา รับทราบรายงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีความเห็นว่า หวยออนไลน์สามารถช่วยแก้ไขการจำหน่ายสลาก หรือลอตเตอรี่ที่มีราคาแพงได้ แต่มีข้อควรระวัง 7 ข้อ เช่น จุดจำหน่ายไม่ควรอยู่ใกล้โรงเรียนหรือวัด การป้องกันไม่ให้เยาวชนเล่นหวยและการนำรายได้จากการจำหน่าย ไปช่วยเหลือชุมชน เป็นต้น ซึ่งประเด็นต่างๆ เหล่านี้ ที่ประชุมบอร์ดให้ความสำคัญมาก เพราะถือเป็นข้อเสนอแนะที่ดีมากแม้ในรายงานของ ป.ป.ช.จะระบุว่าเห็นควรให้ดำเนินการแต่บอร์ดกำชับให้ฝ่ายบริหารไปปฏิบัติตาม รายงานของ ป.ป.ช. เพื่อความโปร่งใส

นางเบญจา กล่าวต่อว่า สิ่งที่บอร์ดกังวัลมากที่สุดคือ เรื่องการนำรายได้จากการจำหน่ายไปใช้เพื่อช่วยเหลือชุมชน หรือสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพราะ พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ปี2517 กำหนดให้นำเงินจากการจำหน่าย 60% ไปจัดสรรเป็นเงินรางวัล 28% นำส่งคลัง และอีก 12% เป็นค่าบริหารจัดการ ซึ่งในหลักการแล้ว สำนักงานสลากจะไปแตะเงินจัดสรรรางวัลและเงินที่ต้องนำส่งคลังไม่ได้ หากจะมีการดึงเงินไปใช้ตามข้อเสนอของ ป.ป.ช.ต้องแก้ไขกฎหมายที่มีกระบวนการพิจารณายาวนาน ทำให้เกิดความล่าช้าอย่างแน่นอน

“ตอนนี้กำลังคิดว่า จะเอาจากส่วนไหนไปใช้เพื่อช่วยเหลือสังคม เพราะหากจะเอาเงินจากที่ต้องนำส่งคลังไปจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือสังคมก็สามารถทำได้ แต่ต้องแก้ไขกฎหมาย หรือจะเอาเงินจากค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ ก็สามารถทำได้ทันที แต่เม็ดเงินที่เหลือไปจัดตั้งกองทุนคงมีน้อยมาก เพราะค่าบริหารจัดการ 12% ถูกแบ่งเป็นค่าธรรมเนียมของผู้แทนจำหน่าย และคนเดินโพย 7% เหลือ 5% เป็นค่าบริหารของผู้ให้บริการออนไลน์ประมาณ 1.5% จึงมีเงินเหลือถึงมือสำนักงานสลากฯ จริงๆ เพียง 3% เท่ากับว่า มีเม็ดเงินที่ใช้ในการช่วยเหลือสังคมน้อยมาก”

อย่างไรก็ตาม ก็มีความแนวคิดที่ว่า เม็ดเงินที่นำส่งคลัง 28% ก็ถือว่า เป็นรายได้ของรัฐบาลที่ต้องบรรจุอยู่ในงบประมาณประจำปีอยู่แล้ว โดยมีกระทรวงสาธารณสุขหรือกระทรวงศึกษาธิการ ดูแลเรื่องสังคมอยู่แล้ว ก็ถือเป็นแนว คิดที่ใช้ได้เหมือนกัน เพียงแต่เม็ดเงินที่ถูกใช้ตามกระบวนการของงบประมาณมีความล่าช้าและอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของสังคม

นางเบญจา กล่าวด้วยว่า ในเดือน พ.ย.นี้ จะเรียกประชุมบอร์ด เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในเรื่องที่ต้องปฎิบัติ 23 เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการสำรวจจุดจำหน่ายหวยบนดินออนไลน์นั้น หากผลปรากฏว่า มีจุดที่จำหน่ายเหลืออยู่น้อย บอร์ดก็จะพิจารณาเพิ่มจุดจำหน่ายใหม่อีกรอบก็ได้ เพราะทางสำนักงานสลากฯ ได้เร่งให้ผู้รับสัมปทาน ไปสำรวจจุดจำหน่ายให้แล้วเสร็จภายใน 3-4 สัปดาห์จากนี้ไป

ด้าน พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า เม็ดเงินที่ใช้ในการช่วยเหลือสังคม ควรจะนำเงินจากรายได้ที่นำส่งคลัง 28% มาจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อสาธารณกุศล เช่น กองทุนพัฒนานักกีฬาไทยหรือกรณีที่ประเทศอังกฤษจัดกีฬาโอลิมปิก ก็ใช้เงินจากหวย เป็นต้น แต่หากติดขัดทางกฎหมาย ก็อาจจะจำเป็นต้องนำเงินจากค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ มาใช้แต่ปริมาณคงไม่มากนัก ส่วนขั้นตอนปฏิบัติทั้ง 23 ข้อ ที่บอร์ดมีคำสั่งให้เร่งดำเนินการจะทำอย่างเต็มที่ โดยมั่นใจต้นปีหน้า จะเห็นหวยบนดินออนไลน์อย่างแน่นอน.