ม.หอการค้าไทย โพลชี้ ประชาชนยังกังวลเกิดน้ำท่วมซ้ำปลายปีนี้ ชะลอใช้จ่าย-เตรียมรับมือแล้ว 99% แต่เห็นว่า รัฐบาลยังเตรียมการรับมือไม่ดีพอ จี้รัฐออกมาตรการเตรียมพร้อม และคุมราคาสินค้าต่อถึงกลางปี 56

นายวชิร คุณทวีเทพ อาจารย์ประจำศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจประชาชนทั่วประเทศ 1,200 ราย ระหว่างวันที่ 19-24 ก.ย.55 เกี่ยวกับทัศนะของประชาชนต่อการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำและทัศนะต่อราคาสินค้า ว่า ในประเด็นเตรียมควรพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 87% กังวลในระดับมากถึงปานกลาง และเชื่อว่าปีนี้มีโอกาสเกิดน้ำท่วมระดับปานกลางถึงมาก โดยเฉพาะกทม.และปริมณฑล รวมถึงภาคกลาง ที่มีความกังวลมากกว่าภาคอื่น

ทั้งนี้ ประชาขน 49% เห็นว่าน้ำจะท่วมหนักพอๆ กับปีก่อน เพราะรัฐบาลละเลยในการแก้ปัญหาและไม่เห็นการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ไม่เห็นการเตรียมการอะไรที่สร้างความมั่นใจ และสภาพอากาศไม่ดี โดยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ขณะที่อีก 38.5% เห็นว่าน่าจะท่วมน้อยลงกว่าปีก่อน เพราะเห็นการเตรียมการของ ส่วนเมื่อถามว่า รัฐบาลพร้อมรับกับสถานการณ์น้ำท่วมหรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ 58% เห็นว่ารัฐบาลพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมปานกลาง อีกทั้งยังเห็นว่า รัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการน้ำดีกว่าปีที่ผ่านมา และป้องกันน้ำท่วมได้ระดับปานกลาง

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมของประชาชนนั้น ส่วนใหญ่ 99% ระบุว่าได้เตรียมความพร้อมแล้ว แต่เป็นระดับปานกลาง โดยติดตามข่าวสารมากขึ้น ซื้อของใช้จำเป็นเก็บไว้และเตรียมขนย้าย ซื้อทรายป้องกันน้ำท่วม ซื้ออาหารแห้ง ขนย้ายของไว้ที่สูง และเตรียมสถานที่อพยพ

นายวชิร กล่าวถึงทัศนะต่อราคาสินค้าว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 63% ยังเห็นว่าสินค้าแพง ทำให้ซื้อจำนวนชิ้นลดลง ซึ่งเห็นด้วยกับมาตรการควบคุมราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ และมีความพึงพอใจกับการใช้มาตรการตรึงราคาสินค้า หากครบกำหนดการใช้มาตรการตรึงราคาวันนี้ 30 ก.ย.นี้แล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐปล่อยราคาในช่วงต้นปี 56 แต่บางส่วนเห็นว่าให้เลิกคุมราคากลางปี 56 ขณะที่อีกบางส่วนต้องการ ให้ตรึงราคาต่อไปจนถึงปลายปี 56 เพื่อลดภาระประชาชน

ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจกำลังซื้อธุรกิจและการใช้จ่ายประชาชนในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ากำลังซื้อไม่ดีและเศรษฐกิจอยู่ในภาวะซึม อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงสูงที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวไม่เกิน 5.5% ได้แก่ ความวิตกต่อปัญหาเศรษฐกิจโลก ความกังวลจากปัญหาการปะทะกันของคนเสื้อแดง และเสื้อเหลือง และน้ำท่วมซ้ำในปีนี้ แต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ 12-14% เพราะการขับเคลื่อนของการท่องเที่ยว แต่หากเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และเกิดน้ำท่วมหนักในเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทันที และการขยายตัวน่าจะต่ำกว่า 10%