นายถาวร ชลัษเฐียร รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดโครงการพัฒนาบุคลากรตำแหน่งช่างฝีมือรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต โดยภายในปี 2556-2557 มีโรงงานที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท. จะร่วมกับวิทยาลัยอาชีวะ 400 แห่งทั่วประเทศ ในการติดต่อผู้ที่จบการศึกษาระดับ ปวช.และกำลังจะศึกษาต่อในระดับ ปวส.ไม่ต่ำกว่า 22,000 ราย เข้ามาทำงานในโรงงานหลังจบการศึกษาทันที และจะให้โอกาสเรียนหนังสือในระดับ ปวส.ไปด้วย โดยผู้ประกอบการจะตั้งเงินเดือนให้สูงถึง 9,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังให้ค่าอาหารกลางวัน 1,000-1,500 บาท/เดือน ชุดพนักงาน โบนัส ประกันสังคม และสวัสดิการต่างๆ เทียบเท่าพนักงานของบริษัท รวมถึงจ่ายค่าเทอมให้ด้วยเพื่อจูงใจเด็กเข้าโครงการ

ทั้งนี้ หาก ส.อ.ท.ไม่ดำเนินการดึงผู้ที่จบการศึกษาระบบ ปวช.มาทำงานในทันที เชื่อว่าในอนาคตเด็กจะไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทกันหมด เพราะกลุ่มที่จบการศึกษาระดับดังกล่าวจะไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานมากนัก สุดท้ายภาคอุตสาหกรรมก็จะประสบปัญหาวิกฤติขาดแคลนแรงงานช่างฝีมือ และโรงงานต่างๆก็จะใช้แนวทางเดิมคือ ซื้อตัวแรงงานที่มีศักยภาพ “โรงงานอุตสาหกรรม และสถาบันศึกษาต้องการผลิต และการพัฒนากำลังคนเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานพร้อมส่งเสริมบุคลากรในภาคการศึกษา และภาคอุตสาหกรรมให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น ซึ่งการเปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับอาชีวศึกษาเข้าไปฝึกงาน มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำทันที”

สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นนักศึกษาที่จบการศึกษาระดับ ปวช. ที่จะศึกษาต่อในระดับ ปวส. โดยต้องทำงานพร้อมๆกับการเป็นพนักงานฝึกหัดด้วย โดยจะเป็นพนักงานรับเหมาช่วงสัญญา 2 ปี และสามารถทำงานล่วงเวลาได้ เบื้องต้นจะมีการเรียนการสอนในโรงงาน 1 วันต่อ 1 สัปดาห์หรือทุกวันอาทิตย์ และเมื่อจบการศึกษาระดับ ปวส.แล้วพนักงานฝึกหัดจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำทันที.